อ.เป้ : บทความทั่วไป

อ.เป้ แนะนำการสร้างโอกาสประสบความสำเร็จง่ายๆ เพียง…

เพียงคุณอ่านหนังสือหรือดูคลิปใน YouTube หรือค้น Google
เพื่อหาความรู้เพิ่มเติมวันละ 15 ถึง 90 นาที คุณก็จะมีความรู้และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนทั่วไป
ถ้าไม่เชื่อ ลองสังเกตคนรอบข้างดูว่าเวลาว่างเขาหาความรู้เพิ่มเติมหรือเขา

– เม้าท์เรื่องชาวบ้าน
– ด่านักการเมือง
– เผือกเรื่องดาราหรือเน็ทไอดอล
– ดูละครไทย
– เปิดเพลงกรอกหูโดยไม่ได้ตั้งใจฟัง
– สไลด์จอมือถือไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตั้งใจอ่านเนื้อหา
– ถ้าจะอ่านก็อ่านแต่เนื้อหาร้ายๆ แล้วก็มานั่งวิจารณ์โดยลืมไปว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
– พอเจอเรื่องดีๆก็อ่านผ่านๆ แป้บเดียวก็จำไม่ได้แล้ว และไม่ได้นำมาปรับใช้

ถ้าเราเป็นคนมีเป้าหมายที่แน่นอน มีสติ เชื่อว่าเราจะควบคุมตัวเองด้วยลดการทำเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นได้
การพักผ่อนเป็นเรื่องจำเป็น แต่ทุกเรื่องต้องมีขอบเขต จะหาความรู้เพิ่มเติมวันละเท่าไหร่ จะพักสมองวันละเท่าไหร่ กำหนดให้ดี ควบคุมให้ดี
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
อ่านต่อ

สินค้าและบริการทั้งหมด ของ อ.เป้ อ.ตูน

สมาร์ทลอว์ติวเตอร์ โดย อาจารย์เป้ และ อาจารย์ตูน บริการสอนวิชาว่าความเพื่อเตรียมสอบใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ผู้ฝึกงานในสำนักงาน 1 ปี และ เนติบัณฑิตไทย ด้วยเทคนิคที่เข้าใจง่าย จำง่าย เขียนได้ ช่วยให้สอบผ่าน และทำงานได้จริง
สมาร์ทลอว์ฯ ช่วยให้นักเรียนสอบผ่านมากกว่า 4,000 คน และนักเรียนสามารถสอบได้คะแนนสูงสุดอันเป็นอันดับ 1  ได้แก่ เนติ อาญา สมัยที่ 64, ทนายความรุ่น 41 ถึง 7, ผู้ฝึกงาน 1 ปี 2558, ที่ 1 ภาคปฏิบัติ รุ่น 37 
ในการสอบทนายความ นักเรียนสอบได้คะแนนสูงสุดและได้รับโล่รวม 5 รุ่น ได้แก่ รุ่น 41, 42, 43, 45, 47, 48
ในการสอบเนติ นักเรียนสอบกลุ่มอาญาได้เป็นอันดับที่ 1 สมัย 64, กลุ่มวิอาญา สมัย 70 สอบได้ 80.5 คะแนน
สมาร์ทลอว์ติวเตอร์มีบริการสอนสดที่สาขาลาดพร้าว และมีระบบออนไลน์เรียนในกลุ่มบน Facebook นักเรียนสามารถบริหารเวลาได้เอง จะเรียนวันใด เวลาใด สถานที่ใดก็ได้ อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็เรียนได้ ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องลางาน สามารถเรียนซ้ำได้ไม่จำกัด  ส่วนเอกสารสามารถปริ้นท์ได้เลยไม่ต้องรอรับทางไปรษณีย์
สอบถาม/สมัครติว ได้ทุกวันในเวลาทำการ 8.30 – 19.00น.
Line ID : @smartlawtutor (ใส่ @ด้วยนะครับ)
โทรศัพท์ :  086-987-5678
* หมายเหตุ : ปัจจุบันสมาร์ทลอว์ฯเปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์แทนเพราะไม่ว่าจะเปิดสาขามากเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน เราจึงปิดสาขาดังนี้ ลาดพร้าว, หาดใหญ่, เชียงใหม่, ขอนแก่นและบางแค*
ปัจจุบันสถาบันตั้งอยู่ที่ซอยราม 53

อ่านต่อ

เทคนิคการเป็นเนติบัณฑิตไทยภายใน 1 ปี

10505536_667885666635357_3295135669537732822_n

สัปดาห์นี้ คำบรรยายออกเป็นเล่มที่ 6 แล้วนะครับ

เวลาก็ผ่านมาแล้ว 1 ใน 3 “เป้าหมาย” ที่ตั้งไว้ว่าจะสอบ 2 ขา ยังมั่นคงอยู่มั้ยครับ “แผน” ที่วางไว้ยังมีวินัยทำตามได้อยู่มั้ยครับ

นอกจาก “มาเรียน” กับ “อ่านคำบรรยาย” แล้ว อย่าลืมทำอีก 3 สิ่งควบคู่ไปด้วยนะครับ

1) ท่องตัวบท ให้เป๊ะทั้งเลขมาตราและข้อความ แน่นอนไม่มีใครจำได้ 100% แต่จงทำให้มากที่สุดเท่าที่ศักยภาพของคุณจะทำได้

2) ฝึกวินิจฉัยจากข้อสอบเก่า ลองดูสิว่าเรื่องที่อ่านและเรียนไปแล้วจะตอบข้อสอบได้ถูกธงมั้ย รวมทั้งตอบได้ครบประเด็นมั้ย

3) ฝึกเขียนตอบข้อสอบ คะแนนสอบวัดที่การเขียนตอบนะครับ เหมือนฟุตบอลวัดกันที่การยิงประตู หากฝึกแต่เลี้ยงบอลส่งบอล แต่ไม่ฝึกยิง ถึงเวลาจริงเตะวืดก็ไม่ได้คะแนนนะครับ

พยายามไปด้วยกันครับ 😀

อ่านต่อ

“การเรียน” กับ “การออกกำลังกาย”

 

10411140_1451783941744704_5057767668247540171_n

 

นักเรียน : อ.เป้ครับ มีเทคนิคที่ช่วยให้เรียน(วิชานั่นโน่นนี่)ให้รู้เรื่องมั้ยครับ

 

อ.เป้ : มีครับ เลิกกินเหล้าเบียร์ของมึนเมาทุกชนิด, เลิกสูบบุหรี่, เลิกนอนดึก, ให้ฝึกสมาธิและ “ออกกำลังกาย” ครับ

 

นักเรียน : นั่นเป็นองค์ประกอบภายนอกป่าวครับ

 

อ.เป้ : นี่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากๆครับ

 

ถ้าเปรียบเทียบมนุษย์ว่าเป็น Computer ร่างกายและสมองก็เหมือน Hardware ส่วนวิชาความรู้ต่างๆ เช่น วิชาว่าความ หรือ เนติบัณฑิต ย่อมเปรียบเหมือน Software

 

Hardware ที่ดี เช่น CPU i7, Ram 16GB, Harddisk 2TB ย่อมสามารถรัน Software ดีๆในปัจจุบันได้ทุกชนิดโดยเครื่องไม่กระตุกและไม่ค้าง สามารถทำงานได้เสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด

 

ดังนั้น ร่างกายและสมองที่ดี ย่อมเรียนแล้วเข้าใจได้เร็ว จำได้มาก สามารถนั่งเรียนหรืออ่านหนังสือนานๆได้ เจ็บป่วยน้อย ไม่ต้องขาดเรียนหรือขาดสอบ

 

กลับกัน ถ้า Hardware ไม่ดี เช่น CPU Atom 1.6G (นึกถึง Netbook), Ram 1GB, Harddisk 500GB แค่ลง Software พื้นฐานทั่วไป บางทีเครื่องกระตุกหรือค้างไปดื้อๆทั้งที่ใช้งานยังไม่เสร็จ

 

ร่างกายและสมองที่ไม่ดี เรียนอะไรก็งง ต่อให้คนสอน “สอนเก่ง” ก็ยัง “งง” จำได้น้อย นั่งเรียนหรืออ่านหนังสือได้ไม่นาน เจ็บป่วยบ่อยทำให้ต้องขาดเรียนหรือขาดสอบ

 

บางคนร่างกายดีสมองดีมาแต่กำเนิดถือว่าโชคดี ส่วนคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงหรือสมองทำงานได้ไม่ดีก็ต้องโทษกรรม แต่เราสามารถ “แก้กรรม” ชนิดนี้ได้ด้วยการ “ออกกำลังกาย” โดยเริ่มต้นที่ 1 วัน/สัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้นตามเวลาที่มี

 

โดยส่วนตัวแล้ว ผมจะกำหนดตารางออกกำลังกายไว้ 2 รูปแบบ

 

1.กรณียุ่งมาก เช่น ช่วงติวก่อนสอบประมาณ 1-2 เดือน ผมจะมีสอน 5-6 วัน/สัปดาห์ ผมจะกำหนดเวลาออกกำลังกายที่ 1-2 วัน/สัปดาห์ ครั้งละ 60นาที

 

2.กรณีว่างมาก เช่น ช่วงปิดเทอม ผมไม่มีสอนเลย หรือช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ ผมจะมีสอนแค่ 2-4 วัน/สัปดาห์ ผมจะกำหนดเวลาออกกำลังกายที่ 3-5 วัน/สัปดาห์ ครั้งละ 60 นาทีเช่นกัน

 

สำหรับวิธีการออก ให้ออกอะไรก็ได้ที่สะดวก สมัยเรียนเนติฯ ผมมีงบน้อยก็เลือกไปว่ายน้ำที่เดอะมอลล์ 1 วัน/สัปดาห์ครับ

 

ปัจจุบัน ผมใช้วิธีปั่นจักรยาน, ยกเวท, วิ่ง, แอโรบิค, ว่ายน้ำ ตามสถานการณ์และสภาพอากาศครับ

 

ตอนนี้อ่านจบแล้ว ให้เริ่มต้นวางแผนและลงมือทำในวันนี้เลยนะครับ

 

ศิษย์สมาร์ทลอว์ฯ สู้ๆ

อ่านต่อ