การมอบอำนาจฟ้องคดี

การมอบอำนาจฟ้องคดีสามารถทำได้ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยผู้มอบอำนาจฟ้องคดีฐานะเป็น “โจทก์” ส่วนผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีมีฐานะเป็น “ผู้รับมอบอำนาจโจทก์”

กรณีที่มีการมอบอำนาจฟ้องคดีไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาจะต้องบรรยายสถานะคู่ความเสมอโดยระบุว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้บุคคลใด (ใสชื่อ-นามสกุล) เป็นผู้ฟ้องร้องและดำเนินคดีแทนพร้อมทั้งอ้างสำเนาหนังสือมอบอำนาจเป็นเอกสารท้ายคำฟ้อง อาทิเช่น

” ข้อ 1. คดีนี้โจทก์มอบอำนาจให้ นายหนึ่ง มกรา ฟ้องร้องและดำเนินคดีกับจำเลยแทนโจทก์ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1 ”

” ข้อ 1. ในการฟ้องร้องดำเนินคดีนี้ โจทก์ทั้งสองมอบอำนาจให้ นายสอง กุมภา เป็นผู้ดำเนินการแทน รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจ เอกสารท้ายคำฟ้อง หมายเลข 1″

อนึ่ง การมอบอำนาจฟ้องคดีเป็นคนละกรณีกับการแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดี การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีทำในหนังสือมอบอำนาจ ส่วนการแต่งทนายทำในใบแต่งทนายความ

**************

คู่สมรสฟ้องคดีเกี่ยวกับสินสมรสโดยลำพังได้หรือไม่ ?

คำถาม : นายหล่อสมรสกับนางสวย ในระหว่างสมรสได้ซื้อรถยนต์มาหนึ่งคัน ปรากฎว่านายเมาได้ขับรถยนต์โดยประมาทมาชนรถยนต์อันเป็นสินสมรสของนายหล่อและนางสวยเสียหาย ใครจะเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้บ้าง ?

คำตอบ

ป.พ.พ. มาตรา 1477 สามีภริยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิฟ้อง ต่อสู้ หรือดำเนินคดีเกี่ยวกับการสงวนบำรุงรักษาสินสมรส หรือเพื่อประโยชน์แก่สินสมรส หนี้อันเกิดแต่การฟ้อง ต่อสู้หรือดำเนินคดีดังกล่าว ให้ถือว่าเป็นหนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกัน

ตามป.พ.พ. มาตรา 1477 สามีหรือภริยามีสิทธิฟ้องคดีเกี่ยวกับสินสมรสได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งก่อน และไม่จำต้องฟ้องคดีร่วมกันแต่อย่างใด ดังนั้น นายหล่อหรือนางสวยจึงเป็นโจทก์ฟ้องคดีเพียงคนเดียวได้ หรือทั้งสองคนจะเป็นโจทก์ร่วมกันก็ได้ กรณีเช่นนี้ในคำฟ้องแพ่งให้บรรยายสถานะคู่ความเรื่องการสมรสและสินสมรสด้วย

ฎ.812/2547 โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์และภริยาซึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 1477 ถือว่าการที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทย่อมเป็นการสงวนบำรุงรักษาสินสมรสหรือเพื่อประโยชน์แก่สินสมรส โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากภริยา

ตัวอย่างการบรรยาย

bbbbbข้อ1.โจทก์เป็นสามีชอบด้วยกฎหมายของนางสวย สดใส จดะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 ที่สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร รายละเอียดปรากฎตามสำเนาใบสำคัญการสมรส เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1
bbbbbโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 1234 กรุงเทพมหานคร โดยโจทก์ซื้อมาเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2550 รถยนต์คันดังกล่าวจึงเป็นสินสมรสของโจทก์กับนางสวย สดใส รายละเอียดปรากฎตามสำเนาใบคู่มือทะเบียนรถยนต์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 2

***************************

คำขอบคุณของนักเรียนที่สอบผ่านภาคปฏิบัติ รุ่น 36 และตั๋วปี 2/54

รับประกาศนียบัตรวิชาว่าความ รุ่น 38 & 2/55

SmartLawTutor Trips #2

ความเห็นของนักเรียนที่สอบผ่านภาคปฏิบัติ รุ่น 38 และตั๋วปี 2/55

ระบบวิดิโอดีกว่าอย่างไร ?

25560701-193443.jpg