ข้อสอบตั๋วทนาย ภาคทฤษฎี รุ่น 38

ข้อเท็จจริง

วันที่ 14 กันยายน 2553 นายหนึ่ง มกราได้มาพบนายชอบ ยุติธรรมที่สำนักงาน เล่าให้ฟังว่า วันที่ 31 มีนาคม 2553 เวลา 16.30 น. ได้ไปพบนายสอง กุมภา เพื่อขอซื้อที่ดิน โฉนดที่ดินเลขที่ 11 ตำบลลาดยาว อำเภอจตุจักร กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 22 ตารางวา ด้านข้างมีอาคารพาณิชย์ซึ่งนายสอง กุมภา บอกว่าเป็นของนายโท กุมภา? นายหนึ่ง มกรา จึงขอซื้อในราคา8ล้านบาท เพราะเห็นว่าเป็นที่ทำเลดี นายสอง กุมภา กับนายโท กุมภา บอกว่า ที่ดิน 4 ไร่ข้างๆต่อไปนายโท กุมภาจะร่วมทุนกับชาวต่างชาติสร้างอาคาร ในเดือนสิงหาคม 2553 ถ้าสร้างเสร็จจะมีราคาถึง 15 ล้านบาท ถ้าจะขาย จะขายในราคา 10 ล้านบาท

วันที่ 1 เมษายน 2553 นายหนึ่งชำระราคาแก่นายสอง กุมภา โดยชำระราคาและจดทะเบียนซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดินลาดพร้าว ต่อมา เดือนตุลาคม 2553 นายหนึ่ง มกราได้สอบถามคนข้างเคียงที่ดิน พบว่าที่ดินของนายโท กุมภา จำนวน 4 ไร่เศษ ถูกเจ้าพนักงานยึดออกขายทอดตลาดตั้งแต่ปี 52 แล้ว

วันที่ 14 กันยายน 2553 นายหนึ่งได้มอบให้ท่านทำหนังสือร้องทุกข์ และในวันเดียวกัน ได้มอบให้ท่านมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามแก่คนทั้งสองเพื่อเรียกร้องตามสิทธิ โดยร้องทุกข์ที่สน.พหลโยธิน วันที่ 15 กันยายน 2553 ท่านจึงมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามให้บุคคลทั้งสองชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 7 วัน

วันที่ 30 กันยายน 2553 ท่านยื่นฟ้องคดีแพ่งพร้อมทำคำแถลงขอส่งหมายทางไปรษณีย์

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 ท่านมาตรวจสำเนาพบว่า นายสอง กุมภา และนายโท กุมภา ได้รับหมายฯตั้งแต่ 10 ตุลาคม 2553 แต่นายโท กุมภาเพิกเฉยไม่ยื่นคำให้การท่านจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีจำเลยโดยขาดนัดยื่นคำให้การ

ศาลนัดอ่านคำพิพากษาโดยให้จำเลยทั้งสองชำระเงินตามฟ้องพร้อมกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 20,000 แต่ไม่มีใครมาฟังคำพิพากษา ศาลให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 30 วันแต่จำเลยเพิกเฉย ท่านจึงยื่นคำขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี

คำสั่ง

  • คำฟ้องแพ่ง 34 คะแนน
  • คำร้องทุกข์ 12 คะแนน
  • คำร้องขาดนัดขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ 7 คะแนน
  • หนังสือบอกกล่าว 10 คะแนน
  • คำแถลงส่งหมายทางไปรษณีย์ 5 คะแนน
  • คำขอออกหมายบังคับคดี 12 คะแนน

แนวคำตอบ

  • ข้อหา : กลฉ้อฉลเพื่อเหตุ, เรียกค่าสินไหมทดแทน

ป.พ.พ. มาตรา 161 ถ้ากลฉ้อฉลเป็นแต่เพียงเหตุจูงใจให้คู่กรณีฝ่ายหนึ่งยอมรับข้อกำหนด อันหนักยิ่งกว่าที่คู่กรณีฝ่ายนั้นจะยอมรับโดยปกติ คู่กรณีฝ่ายนั้นจะบอกล้างการนั้นหาได้ไม่ แต่ ชอบที่จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดจากกลฉ้อฉลนั้นได้

ฎ.5246/2543 จำเลยให้คำรับรองว่าที่ดินพิพาทที่จะขายให้แก่โจทก์ติดกับทางสาธารณะ แต่ปรากฏว่าที่ดินพิพาทไม่ติดทางสาธารณะตามที่จำเลยให้คำรับรอง เมื่อโจทก์มีเจตนาซื้อที่ดินของจำเลยเพื่อเป็นทางออกสู่ทางสาธารณะ และได้ซื้อ ที่ดินพิพาทจากจำเลยในราคาที่แพงกว่าปกติของที่ดินในบริเวณเดียวกับที่ไม่ติดทางสาธารณะ ถือว่าจำเลยขายที่ดินแก่โจทก์โดยทำกลฉ้อฉล เป็นเหตุให้โจทก์ต้องชำระราคาสูงขึ้นกว่าราคาซื้อขายปกติ แต่โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทเพราะติดกับที่ดินแปลงอื่นของโจทก์ด้วย จึงเป็นกลฉ้อฉลแต่เพียงเหตุจูงใจให้คู่กรณีฝ่ายหนึ่งยอมรับข้อกำหนดอันหนักยิ่งกว่าที่เขาจะยอมรับโดยปกติ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 161 (เทียบเคียง)

  • คู่ความ
    – โจทก์ >? นายหนึ่ง มกรา
    – จำเลย > นายสอง กุมภา กับ นายโท กุมภา
  • ค่าเสียหาย
    – ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน? 2,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยก่อนฟ้องอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 คิดถึงวันฟ้องเป็นเวลา 6 เดือนคิดเป็นเงิน 75,000 บาท? รวมเป็นทุนทรัพย์ 2,075,000 บาท และขอคิดดอกเบี้ยหลังฟ้องอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้น 2,000,000 บาท นับตั้งแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป
    หมายเหตุ : ตามข้อเท็จจริงเป็นกรณีกลฉ้อฉลเพื่อเหตุ ตามป.พ.พ. มาตรา 161 สัญญาซื้อขายจึงไม่เป็นโมฆียะ บอกล้างไม่ได้ จึงไม่มีคำขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขาย


ข้อสังเกตโดย อ.เป้

> แนวการออกข้อสอบเน้นหลักกฎหมาย การหาวันคิดดอกเบี้ย และการคำนวณทุนทรัพย์ ในการสอบครั้งต่อไปนักเรียนต้องศึกษาหลักการเขียนทบทวนหลักกฎหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้แม่นยำก่อนเข้าสอบด้วยนะครับ
> คอร์สติวของผมจึงต้องเพิ่มวันติวหลักกฎหมายโดยเฉพาะอีก?1 วัน?รอฟังผลสอบ 19 เม.ย.55 ขอให้ทุกคนสอบผ่านครับ

สมัครติวสอบใบอนุญาตทนายความ ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และผู้ฝึกงาน 1 ปี กับ อ.เป้ สิททิกรณ์

โทร.086-987-5678 หรือดูรายละเอียดที่ www.SmartLawTutor.com

***********************************

Write a comment